จากบทความที่แล้วมีผู้อ่านหลายท่าน
มีคำถามเข้ามามากมาย
เราได้รวบรวมคำถามเหล่านั้นมาตอบในกระทู้นี้ค่าเพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจในเมล็ดเชีย
และบริการของทางร้านเรามากขึ้น
เมล็ดเชียคืออะไร
- เมล็ดเชียเป็นธัญพืชที่มีแหล่งกำหนิดมาจากประเทศแถบอเมริกาใต้ ถูกขนานนามว่าเป็นสุดยอดอาหาร เพราะในเมล็ดเชียนั้น มีสารอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆมากมาย ทั้งแคลเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส และ Omega-3 สูงมาก
เมล็ดเชียมีลักษณะ คล้ายคลึงกับเมล็ดแมงลัก
ขนาดเท่ากัน
แต่คุณค่าสารอาหารที่มีอยู่ในเมล็ดเชียนั้นมีมากกว่าเมล็ดแมงลักหลายเท่าเลยทีเดียวค่ะ
ประโยชน์ของเมล็ดเชีย
- เชื่อมั้ยคะว่าในเมล็ดเล็กๆนี้ มีสารอาหารซ่อนอยู่มากมาย ทั้งแคลเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โปรตีน โอเมก้า-3 และไฟเบอร์ สารอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อร่างกายของเราทั้งนั้นเลย และการทานเมล็ดเชียเพียงอย่างเดียวก็ได้รับสารอาหารต่างๆมากมายเลยค่ะ
เมล็ดเชียมีกี่เกรด
- เมล็ดเชียมีหลายเกรดมากค่ะ ทั้งปลูกในไทย ปลูกแถบออกเตรเลีย ปลูกแถบยุโรป และแถบอเมริกาใต้ ซึ่งแถบอเมริกาใต้ก็แน่นอนเป็นแหล่งผลิตเมล็ดเชียที่ดีที่สุดในโลกค่ะ นอกจากประเทศที่ปลูกแล้ว ก็ยังมีเมล็ดเชียแบบออร์แกนิค และแบบไม่ออร์แกนิค ซึ่งสองอย่างนี้ต่างกันโดย แบบออร์แกนิคนั้งปลูกแบบไม่ใช้ยาฆ่าแมลงใดๆเลย
- เมล็ดเชียของ Organic Valley นั้น เป็นแบบ Organic 100% ค่ะ
เมล็ดเชียนำเข้ามาจากที่ไหน
- เมล็ดเชียของ Organic Valley นำเข้ามาจากประเทศโบลิเวีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเมล็ดเชียคุณภาพสูงที่สุดในโลก เมล็ดเชียของเราถูกปลูกอย่างพิถีพิถัน ในที่ราบสูง บนอุณหภูมิที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโต ซึ่งจะได้เมล็ดเชียที่โตเต็มที่และมีคุณภาพสูงที่สุด
วิธีการเก็บรักษาเมล็ดเชีย
- เก็บเมล็ดเชียในที่แห้งและเย็น สำหรับเมล็ดเชียขนาด 450 กรัม 1 กิโลกรัม เรามีถุงซิปล็อคมาให้นะคะ
- สำหรับขนาด 150 กรัม เป็นถุงฟอยล์ซึ่งกันความชื้นได้เป็นอย่างดีค่ะ
รับประทานอย่างไร
- รับประทานเมล็ดเชียได้กับขนม นม หรือกับข้าว สลัดผักต่างๆก็ได้ค่ะ แต่แนะนำให้แช่เมล็ดเชียให้พองตัวซะก่อนนะคะ โดยประมานเวลาก็ 10-15 นาทีคะ อาจจะนานกว่าเม็ดแมงลักษ์ นิดนึง เพราะถ้าทานโดยไม่ใช่น้ำก่อน เมล็ดเชียจะไปดูดน้ำในร่างกายของเราทำให้ท้องอืดได้ค่ะ
- ในส่วนนี้เป็นแนวทางส่วนตัวนะค๊ะ ที่นำมาทำกินเองคือ แช่เมล็ดเชียให้พอง แล้วใส่น้ำผึ้งแท้ลงไป เพื่อเพิ่มรสชาตแล้วก็ไม่ทำให้อ้วนด้วยค๊ะเพราะเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดียวดึงไปใช้งานได้เลย แต่อย่าใส่เยอะเกินไปนะคะ
- หรือถ้าไม่อยากทานเปล่าๆหรือผสมน้ำเชื่อมก็สามารถใส่ลงไปในโยเกิตก็ได้คะ เพื่อเพิ่มรสชาตของโยเกิตให้ละมุนลิ้นมากขึ้นเวลาเขี้ยวแล้วเหมือนยังได้รู้สึกว่าเคี้ยวอะไรไปบ้าง :0
ถ้าผู้อ่านได้รับความรู้อะไรจากบล๊อกนี้ไปบ้างก็ติดตามกันได้เรื่อยๆนะคะ
ต่อไปก็จะนำสาระเรื่องอาหารสุขภาพและวิธีการทำอาหารสุขภาพมานำเสนอต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น